เพราะฉะนั้นแล้ว หากเพื่อนๆไม่อยากเสียใจภายหลังลองอ่านคู่มือเล่มนี้ให้จบ แล้วเพื่อนๆจะตอบตัวเองได้ว่า เพื่อนๆพร้อมหรือยังที่จะไขว่คว้าบ้านในฝันมาเป็นของเพื่อนๆ
การงานมั่นคง บ้านสมดั่งใจ (อย่างแรกเลยนะครับ)
หากเพื่อนๆตกลงปลงใจที่จะกู้เงินเพื่อซื้อบ้านของเพื่อนๆแล้ว อาชีพการงานก็ถือว่าเป้นเรื่องที่สำคัญเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้กู้เงินของธนาคาร อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าแบบไหนที่เรียกว่ามั่นคง
สถาบันการเงิน ในเมื่องไทย |
แต่หากเพื่อนๆทำงานไม่ต่อเนื่องในช่วงเวลา 2 ปี ธนาคารก็ยินดีที่จะพิจารณาเหตุผลของเพื่อนๆ เพื่อเป็นตัวช่วยให้เพื่อนๆได้มีโอกาสเดินทางตามฝันของเพื่อนๆต่อไป แต่ถ้าพิจารณาแล้วเหตุผลไม่เข้าตา เพื่อนๆคงต้องชะลอฝันของเพื่อนๆไว้ก่อน แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้ต่อเนื่องมั่นคง เพื่อที่จะกลับไปแสดงให้ธนาคารเห็นว่าเพื่อนๆพร้อมแล้วล่ะที่จะลงหลักปักฝัน
เครดิตดี มีชัยไปกว่าครึ่ง (อันที่สอง)
เรื่องเครดิตนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่เพื่อนๆจะมองข้ามไปไม่ได้เลย เพราะถ้าเครดิตเพื่อนๆดีแล้ว อะไรๆ ก็จะดูดีตามไปด้วย แล้วเพื่อนๆรู้ไหมว่า เครดิตดีต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ลองอ่านข้างล่างดูสิ
* ดูรายงานเครติด ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ
การเงินในอดีตที่ผ่านมาของเพื่อนๆ เป็นเครื่องชี้วัดอย่างหนึ่งว่า ในอนาคต เพื่อนๆจะชำระหนี้ให้กับธนาคารได้หรือไม่ ซึ่งธนาคารจะขอดูรายงานเครดิต (Credit report) ของเพื่อนๆจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบเครดิตหรือการชำระหนี้ของเพื่อนๆที่มีอยู่กับสถาบันการเงินต่างๆ ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆควรจะเปิดเผยหนี้สินทั้งหมด และอาจชี้แจงถึงเหตุผลที่เพื่อนๆเคยมีปัญหาการค้างชำระในอดีตให้ธนาคารทราบ
* บ้านเคยถูกยึด ฮีดขึ้นสู้ใหม่
หากเพื่อนๆเคยมีบ้านเป็นของตัวเองมาแล้ว และขอกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยด้วย แต่จนแล้วจนรอด คูณก็ถูกฟ้องร้องบังคับให้จำนองและขายทอดตลาดบ้านที่เป็นหลักประกันไป ภายในระยะเวลา 7 ปี ก็จะถูกเปิดเผยในรายงานข้อมูลเครดิต แต่เพื่อนๆอย่าเพิ่งหมดหวังเพราะธนาคารให้โอกาสเพื่อนๆกู้ได้อีกครั้ง โดยธนาคารมักจะใช้หลักเกณฑ์ว่าสามารถกู้ได้อีกครั้งต่อเมื่อ การฟ้องยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ต้องเป็นเรื่องเก่าที่ผ่านมาแล้ว 3 ปี แต่เพื่อนๆควรอธิบายเหตุผลให้ธนาคารทราบด้วยว่าทำไมเพื่อนๆจึงไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ในอดีตได้
* เคยล้มละลาย ก็กู้ได้ไม่มีปัญหา
ในกรณีที่เพื่อนๆเคยถุกฟ้องล้มละลาย ภายในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาก็เช่นกัน เรื่องนี้จะถูกบันทึกลงในรายงานเครดิต แต่เพื่อนๆก็ไม่ต้องวิตกกังวล เพราะธนาคารยังเปิดโอกาสให้กับเพื่อนๆ หากว่าเพื่อนๆหลุดพ้นจากภาวะล้มละลายมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี เพื่อนๆก็มีสิทธิ์ที่จะกู้ใหม่ได้
คราวนี้เพื่อนๆคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วล่ะสิว่า ต่อให้เครดิตเพื่อนๆจะเป็นยังไง ธนาคารก็เปิดโอกาสเพื่อให้บ้านในฝันของเพื่อนๆเป็นจริงได้เสมอ แต่..อย่าลืมนะว่า เครดิตดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
เครดิตไม่เข้าตา ธนาคารจะพิจารณาอะไรแทนได้
หากเพื่อนๆเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีเครดิต "อย่าเพิ่งคิดน้อยใจ" ยังมีทางเลือกอื่นๆไว้ให้เพื่อนๆอยู่ เพื่อเปิดโอกาสไม่ให้เพื่อนๆพลาดบ้านในฝันของเพื่อนๆไปอย่างน่าเสียดายเ มื่อเพื่อนๆเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยทำบัตรเครดิต หรือไม่เคยกู้เงินจากสถาบันการเงินใดเลย บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ก็จะไม่สามารถรายงานเครดิตของเพื่อนๆให้กับธนาคารทราบได้ แต่เพื่อนๆก็ยังมีสิทธิ์ที่จะกู้เงินจากธนาคาร เพราะเพื่อนๆอาจจะใช้วิธีการแบบเดิมๆ คือการแสดงบิลใบเสร็จรับเงินหรือเอกสารการชำระหนี้ต่างๆ เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา เป็นต้น ที่มีการจ่ายชำระตรงเวลาทุกเดือนและไม่มีการค้างชำระ ซึ่งหากเพื่อนๆสามารถแสดงการชำระหนี้รายเดือนต่างๆ ที่สม่ำเสมอและตรงเวลาได้มากเท่าไร ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงเครดิตของเพื่อนๆในการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านมากขึ้นเท่านั้น
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อนๆคงเลิกคิดน้อยใจแล้วล่ะ เพราะถึงแม้เพื่อนๆไม่มีเครดิตแต่เพื่อนๆก็มีสิทธิ์ที่จะกู้เงินกับธนาคารได้ บ้านที่เพื่อนๆฝัน จากนี้ไปก็คงไม่ไกลเกินไขว่คว้า
เก็บหอมรอมริบ พิชิตเงินดาวน์
เพื่อนๆสู้อุตส่าห์เก็บเงินมาแรมปี หวังว่าจะมีเงินไว้ดาวน์บ้านในฝันสักหลังหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มั่นใจใช่ไหมว่า เงินออมที่เพื่อนๆมีอยู่เพียงพอที่จะเปลี่ยนเป็นเงินดาวน์ให้เพื่อนๆได้หรือไม่ ไปดูกันเลยดีกว่า
เมื่อเพื่อนๆคิดที่จะซื้อบ้าน เรื่องเงินออมเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเพื่อนๆจะต้องใช้เป็นส่วนหนึ่งในการซื้อบ้าน และเงินออมที่เพื่อนๆมี สามารถแสดงให้ธนาคารเห็นว่า เพื่อนๆมีความมุ่งมั่นตั้งใจมากแค่ไหนที่จะไปพิชิตบ้านในฝัน ซึ่งเงินออมที่เพื่อนๆมีอยู่ ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นเงินดาวน์และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
โดยทั่วไปแล้ว เพื่อนๆอาจจะต้องมีเงินดาวน์ประมาณ 10-25% ของราคาซื้อขายแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเรียกเก็บเงินดาวน์ของผู้ขายบ้านด้วยรวมถึงนโยบายการปล่อยเงินกู้ของสถาบันการเงิน แต่สำหรับธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้ว ได้กำหนดอัตราส่วนวงเงินกู้เพื่อซื้อบ้านและห้องชุด ดังนี้
อัตราส่วนวงเงินกู้เพื่อซื้อบ้านและห้องชุด
* บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 85% เพื่อนๆต้องมีเงินดาวน์ อย่างน้อย 15%
* ห้องชุด 70-80% เพื่อนๆต้องมีเงินดาวน์ อย่างน้อย 20-30%
* ค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน - ค่าธรรมเนียมการโอน 2% - ค่าจดทะเบียนจำนอง 1%
หากเพื่อนๆเก็บหอมรอมริบมาเป็นอย่างดี ค่าใช้จ่ายแค่นี้สบายๆ แต่หากตอนนี้ตัวเพื่อนๆยังไม่มีเงินออมเลย ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นเก็บสะสมเงินออม โดยการเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคาร เพราะในการกู้เงินพนักงานวิเคราะห์สินเชื่อ จะขอให้เพื่อนๆแสดงหลักฐานรายได้ พร้อมทั้งแสดงรายการเคลื่อนไหวของบัญชีเงินฝาก มาประกอบการวิเคราะห์สินเชื่อด้วย เพราะฉะนั้นยิ่งเพื่อนๆสามารถฝากเงินได้ทุกเดือน อย่างต่อเนื่อง ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเพื่อนๆเริ่มมีความพร้อมในการซื้อบ้านและกู้เงินมากเท่านั้น และยิ่งเพื่อนๆเก็บออมได้นานปีเท่าได ก็ยิ่งแสดงถึงความน่าเชื่อถือในการกู้เงิน เพื่อที่อยู่อาศัยของเพื่อนๆมากขึ้นเท่านั้นด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ก็เชื่อว่าเพื่อบ้านในฝันของเพื่อนๆแล้วคงไม่มีอะไรที่เพื่อนๆจะทำไม่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น